สัญชาติไทย พบหญิงชาวจีนปลอมแปลงเอกสารการใช้ชื่อและเอกสารปลอมแปลงสัญชาติ ที่ถือมานานกว่า 31 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 มีคำสั่งให้ถอนสัญชาติไทย

สัญชาติไทย หญิงชาวจีนปลอมเอกสารนาน 31 ปี

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง ถอนสัญชาติไทยด้วย น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู เดิมเป็นบุคคลสัญชาติจีน ได้รับอนุญาตให้เข้าถือสัญชาติไทย โดยการสมรสกับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย สามีผู้มีสัญชาติไทย

ต่อมากระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งจากทางการจีนผ่านกระทรวงการต่างประเทศ โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า 1.โจว จิ้งหัว หรือ โจว ฉานหลิง และ ฉวู ฉานหลิง หรือ ชานลิน ซู หรือ น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล เป็นบุคคลเดียวกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 มีคำสั่งให้ถอนสัญชาติไทย น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู จึงมีผลให้เสียสัญชาติไทย ตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508

จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

การปลอมแปลงเอกสาร

น.ส.เมธาวรินทร์ มีการปลอมแบบฟอร์ม พร้อมทั้งหนังสือรับรองจากชุมชน และใช้ญาติปลอม เพื่อให้ได้มาซึ่งรายการปลอมชื่อ นางฉวู ฉานหลิง หรือ ชานลิน ซู และได้รับหนังสือเดินทางจีน เลขที่ 783921 เข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ได้ใช้เอกสารในชื่อที่แท้จริงของตน คือ นางโจว จิ้งหัว หรือ นางโจว ฉานหลิง

น.ส.เมธาวรินทร์ หรือ นางโจว จิ้งหัว แต่งงานตามประเพณี กับ นายฉวู จินหง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 มีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากันโดยพฤตินัย โดยมีบุตรด้วยกัน 3 คน ซึ่งได้รับการคุ้มครองและบังคับตามกฎหมายจีน มีผลตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 ถึงปัจจุบัน

น.ส.เมธาวรินทร์ ใช้รายการปลอมชื่อ นางฉวู ฉานหลิง หรือ ชานลิน ซู นำรายการดังกล่าวมาจดทะเบียนสมรสกับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย ที่ประเทศไทย ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตบางรัก เมื่อปี พ.ศ. 2531 และแจ้งเกิดบุตรทั้ง 3 คน (ซึ่งเป็นบุตรของ น.ส.เมธาวรินทร์ กับ นายฉวู จินหง ) มีสูติบัตรออกให้โดยสำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายระบุชื่อ เริงศักดิ์ แซ่เตีย เป็นบิดา

น.ส.เมธาวรินทร์ ใช้รายการปลอมชื่อ นางฉวู ฉานหลิง หรือ ชานลิน ซู ยื่นคำขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสกับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย สามีผู้มีสัญชาติไทย ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ได้รับอนุญาตให้เข้าถือสัญชาติไทยตามสามี เมื่อปี พ.ศ.2535

พฤติการณ์ถือได้ว่าการสมรสระหว่าง น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู กับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย เป็นไปโดยปกปิดข้อเท็จจริง หรือแสดงข้อความเท็จ อันเป็นสาระสำคัญตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508

สัญชาติไทย

กฎหมายสัญชาติไทยในยุคก่อนที่จะมี พ.ร.บ.สัญชาติ

สัญชาติไทย” เป็นไปตามกฎหมายจารีตประเพณีดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงเรียกว่า “มูลนิติธรรมประเพณี” กล่าวคือ ตามที่เป็นไปตามกฎหมายธรรมชาติ “บุคคลที่เกิด ช่วงเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 จะมีสัญชาติไทยหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามมูลนิติธรรมประเพณีว่าด้วยสัญชาติไทยเท่านั้น”

กฎหมายลายลักษณ์อักษรของไทยชุดแรกว่าด้วยสัญชาติไทย

พ.ร.บ.แปลงชาติ รศ.130 (พ.ศ.2454)ว่าด้วยกฎเกณฑ์เรื่องการแปลงสัญชาติเป็นไทยเท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 บุคคลที่เกิดตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 จนถึงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2456 จะมีสัญชาติไทยหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามมูลนิติธรรมประเพณีว่าด้วยสัญชาติไทย ประกอบกับ พ.ร.บ.แปลงสัญชาติ ร.ศ. 130 พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2456 มีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2456 จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495

พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. ๒๔๕๖

  • พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. ๒๔๕๖

มาตรา ๓ บุคคลเหล่านี้ได้บัญญัติว่าเป็ นคนไทย คือ
(๑) บุคคลผู้ได้กำเนิดแต่บิดำเป็นคนไทย แม้เกิดใน พระรำชอำณำจักรก็ดี
เกิดนอกพระรำชอำณำจักรก็ดี
(๒) บุคคลผู้ได้กำเนิดแต่มำรดำเป็นคนไทย แต่ฝ่ำยบิดำไม่ปรำกฏ
(๓) บุคคลผู้ได้กำเนิดในพระรำชอำณำจักรสยาม

  • พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. ๒๔๙๕

มาตรา ๗ บุคคลดังต่อไปนี้ ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(๑) ผู้เกิดโดยบิดำเป็นคนไทย ไม่ว่ำจะเกิดในหรือ นอกรำชอำณำจักร
(๒) ผู้เกิดโดยมำรดำเป็นคนไทย แต่ไม่ปรำกฏบิดำที่ชอบด้วยกฎหมำยหรือบิดำไม่มี
สัญชำติ ไม่ว่ำจะเกิดในหรือนอกรำชอำณำจักร
(๓) ผู้เกิดในรำชอำณำจักร

  • พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๖

มาตรา ๗ บุคคลดั่งต่อไปนี้ ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(๑) ผู้เกิดโดยบิดำเป็นคนไทย ไม่ว่ำจะเกิดในหรือ นอกรำชอำณำจักร
(๒) ผู้เกิดนอกรำชอำณำจักรโดยมำรดำเป็นคนไทย
แต่ไม่ปรำกฏบิดำที่ชอบด้วยกฎหมำย หรือบิดำไม่มีสัญชำติ
(๓) ผู้เกิดในรำชอำณำจักรโดยมำรดำเป็นคนไทย
(มำตรำนี ้มีผลตั ้งแต่วันที่ ๔ กุมภำพันธ์ ๒๔๙๖ ถึงวันที่ ๑๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๐๐)

  • พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๙

มาตรา ๗ บุคคลดังต่อไปนี้ ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(๑) ผู้เกิดโดยบิดำเป็นคนไทย ไม่ว่ำจะเกิดในหรือ นอกรำชอำณำจักร
(๒) ผู้เกิดนอกรำชอำณำจักรโดยมำรดำเป็นคนไทย แต่ ไม่ปรำกฏบิดำที่ชอบ
ด้วยกฎหมำยหรือบิดำไม่มีสัญชำติ
(๓) ผู้เกิดในรำชอำณำจักรไทย”
มำตรำ ๔ บุคคลซึ่งเกิดในรำชอำณำจักรไทยโดยมำรดำมิใช่คนไทยในระหว่ำงใช้พระรำชบัญญัติ
สัญชำติ (ฉบับที่ ๒)พ.ศ. ๒๔๙๖ ย่อมได้สัญชำติไทย

  • พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. ๒๕๐๘

มาตรา ๗ บุคคลต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด

(๑) ผู้เกิดโดยบิดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย
(๒) ผู้เกิดนอกราชอาณาจักรโดยมีมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย แต่ไม่ปรากฏบิดาตามกฎหมาย  หรือบิดาไม่มีสัญชาติ

(๓)ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับข่าวสังคม

ที่มาของบทความ

 

ติดตามอ่านข่าวสังคมได้ที่  maclochdesigns.com

สนับสนุนโดย  ufabet369