ยูเครน : รัสเซียยิงถล่มอะพาร์ตเมนต์ในเมืองดนีโปร เสียชีวิตแล้ว 36 คน

นายกเทศมนตรีเมืองดนีโปรของยูเครนเตือนว่า อาจจะไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม หลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอาคารอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองทางตะวันออกของยูเครนแห่งนี้เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.

ตึกที่พักอาศัยสูง 9 ชั้นพังถล่มลงมาทั้งหมด และคณะผู้บริหารของเมืองระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 36 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 75 คน แต่ปฏิบัติการกู้ภัยยังดำเนินต่อไป

นายบอริส ฟิลาตอฟ นายกเทศมนตรีเมืองดนีโปร กล่าวว่า โอกาสพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม “มีน้อยมาก”

โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ย้ำกับผู้สื่อข่าวเมื่อ 16 ม.ค. ว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้โจมตีอาคารที่อยู่อาศัย แต่เป็น “เป้าหมายทางทหาร ทั้งที่เห็นได้ชัดเจน และที่อำพรางไว้”

นอกจากเมืองดนีโปร ยังมีกรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟ และเมืองโอเดสซา เผชิญกับการโจมตีเมื่อเสาร์ที่ 14 ม.ค. ด้วย ซึ่งรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า พุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและทหารของยูเครน

นายกรัฐมนตรีมาเทอูช มอราเวียสกี ของโปแลนด์ เรียกการยิงขีนปาวุธโจมตีนี้ว่า “ไร้มนุษยธรรม” และกล่าวเพิ่มเติมว่า “รัสเซียจงใจก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือนต่อไปเรื่อย ๆ”

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า “ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปตามกรอบการทำงานที่วางแผนไว้ของกระทรวงกลาโหมและกองเสนาธิการทหาร”

ส่วนที่บริเวณพรมแดนของเบลารุสทางเหนือของยูเครนกำลังมีการฝึกซ้อมของกองทัพอากาศร่วมกันกับรัสเซียในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. กระทรวงกลาโหมของเบลารุสยืนกรานว่า พวกเขาจะคอยตั้งรับ แต่ก็มีความกังวลว่า รัฐบาลรัสเซียจะกดดันให้รัฐบาลเบลารุสเข้าร่วมสงครามในยูเครน เบลารุสเป็นประเทศที่ให้รัสเซียใช้เป็นฐานในการเปิกฉากบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว

ในการกล่าวช่วงกลางคืนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า เขาได้รับข้อความแสดงความเห็นใจจำนวนมากจากทั่วโลก และประณาม “การนิ่งเงียบอย่างขี้ขลาด” ของประชาชนชาวรัสเซีย เกี่ยวกับการโจมตีเมืองดนีโปร

เขาได้กล่าวเป็นภาษารัสเซียว่า เขาต้องการพูดกับคน “ที่ตอนนี้ไม่สามารถเอ่ยถ้อยคำประณามความโหดร้ายนี้ได้”

“ความนิ่งเงียบที่ขี้ขลาดของคุณ ความพยายามในการรอคอยให้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นผ่านพ้นไป มีแต่จะจบลงด้วยการที่วันหนึ่งความโหดร้ายนี้ก็จะเกิดขึ้นกับคุณเช่นกัน”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า เหยื่อจากการโจมตีนี้รวมถึงเด็กหญิงวัย 15 ปี และเด็ก 2 คนที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่รัสเซียโจมตีสายส่งไฟฟ้าของยูเครนระลอกล่าสุด นายเซเลนสกี กล่าวเมื่อวันเสาร์ (14 ม.ค.) ว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในภูมิภาคคาร์คิฟ และเคียฟ ถูกโจมตีอย่างรุนแรง

หลังการโจมตี ยูเครเนอร์โก (Ukrenergo) บริษัทด้านพลังงานของทางการยูเครน ได้จำกัดการใช้พลังงานตลอด 24 ชั่วโมงในทุกภูมิภาคเป็นการชั่วคราว นายแฮร์มาน ฮาลูชเชนโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของยูเครน กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ “ยากลำบาก”

ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. ว่า บรรดาชาติตะวันตกอาจจะส่งอาวุธหนักให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก

การระดมยิงขีปนาวุธของรัสเซียเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ของสหราชอาณาจักร ระบุว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะมอบรถถังแชลเลนเจอร์ 2 (Challenger2) ให้กับกองทัพยูเครนเพื่อพยายามที่จะ “ผลักดันทหารรัสเซียให้ถอยไป”

รัฐบาลรัสเซียตอบโต้เรื่องนี้ว่า การมอบอาวุธให้แก่ยูเครนเพิ่มเติม จะนำไปสู่ปฏิบัติการที่ทวีความรุนแรงขึ้นของรัสเซีย และจะมีการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนเพิ่มขึ้น

หากคุณต้องการติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกสามารถติดตามได้ที่ maclochdesigns.com